การเจรจาความตกลงการค้าระหว่างสหราชอาณาจักรกับสหภาพยุโรป ได้ดำเนินมาถึงช่วงเวลาที่สำคัญในการเจรจา โดยการเจรจาในรอบที่ 7 นี้ จะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 18-21 สิงหาคม 2563 ณ กรุงบรัสเซลส์ โดย สหราชอาณาจักรได้ให้ความสำคัญกับการเจรจาโดยส่งคณะเจรจามากถึง 50 คนเดินทางไปร่วมการเจรจา ในการเจรจาครั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยังคงมีความหวังที่จะสามารถสรุปผลการเจรจาในประเด็นที่ยังคงค้าง อาทิ การแข่งขันอย่างเท่าเทียม (level of playing field) สิทธิในการประมง กฎหมาย ความร่วมมือด้านพลังงาน การเคลื่อนย้ายบุคคล การขนส่ง การค้าสินค้าและบริการ และความร่วมมือด้านความมั่นคง ให้ได้มากที่สุดเพื่อให้สามารถสรุปผลการเจรจาได้ตามกำหนดเวลาในช่วงเดือนกันยายน – ตุลาคม ที่จะถึงนี้ตามที่ทั้งสองฝ่ายตั้งเป้าหมายไว้

นาย David Frost หัวหน้าคณะเจรจาของสหราชอาณาจักร ได้กล่าวว่า การเจรจาในรอบนี้ สหราชอาณาจักรจะยังคงยืนยันท่าทีในการเจรจาในเรื่องอาณาธิปไตยของประเทศ เช่น กฎหมาย ศาล และสิทธิในการประมงไม่ควรอยู่ในการเจรจาครั้งนี้ และจะไม่ยอมรับข้อเรียกร้องใดๆ ในประเด็นดังกล่าว นอกจากนี้ สหราชอาณาจักรมีความสนใจในการทำความตกลงการค้าเสรีในรูปแบบเดียวกันกับความตกลงการค้าเสรีระหว่างสหภาพยุโรปกับแคนาดาเท่านั้น และไม่ได้มีความประสงค์จะทำความตกลงที่มีผลเท่าเทียมกับการเป็นตลาดเดียวกับสหภาพยุโรปแต่อย่างใด

สำหรับการเจรจาในรอบเดือนสิงหาคมนี้ สหราชอาณาจักรจะหยิบยกประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งสินค้าทางรถยนต์ที่สหภาพยุโรปมีท่าทีต้องการให้ยกเลิกสิทธิในการเดินรถขนส่งทางรถระหว่างกันดังที่เป็นมาแต่เดิม ซึ่งเป็นผลจากหลักการการแข่งขันอย่างเท่าเทียม (Level of Playing Filed) ที่สหภาพยุโรปเสนอและเป็นประเด็นที่เชื่อมโยงถึงเรื่องสภาพแวดล้อมการทำงานและมาตรฐานของรถยนต์ โดย สหราชอาณาจักรเห็นว่าหากสหภาพยุโรปต้องการยกเลิกสิทธิในการเดินรถขนส่งระหว่างกันจะส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการของสหภาพยุโรปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากการขนส่งสินค้าจากสหภาพยุโรปมายังสหราชอาณาจักรดำเนินการโดยบริษัทของสหภาพยุโรปมากถึง

ร้อยละ 85 ทั้งนี้ ข้อเรียกร้องของสหราชอาณาจักรรวมถึง การหยุดพัก การรับ-ส่งของในสหภาพยุโรป และการขนส่งผ่านแดนไปยังประเทศตุรกี สำหรับฝ่ายสหภาพยุโรปนั้น ฝรั่งเศสเห็นว่า การอนุญาตให้มีการขนส่งระหว่างกันดังเดิมจะส่งผลให้เกิดความไม่เท่าเทียมในการแข่งขันสำหรับสมาชิกสหภาพยุโรปอื่นๆ และอาจส่งผลให้ข้อตกลงนี้มีผลใกล้เคียงกับการเป็นตลาดเดียว

นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายจะยังคงหารือกันในประเด็นเรื่องสิทธิในการประมง ซึ่งหากสหภาพยุโรปไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเรื่องนี้ได้ตามที่หวังไว้จะส่งผลกระทบอย่างมากต่ออุตสาหกรรมประมงของสหภาพยุโรป ในขณะที่ความร่วมมือด้านพลังงาน ความร่วมมือด้านการขนส่ง และกฎถิ่นกำเนิดสินค้า ยังคงเป็นประเด็นสำคัญที่ทั้ง 2 ฝ่ายจะต้องสรุปผลการเจรจาให้ได้ภายในการเจรจารอบต่อไปก่อนสรุปผลการเจรจาในเดือนตุลาคม

ทั้งนี้ การเจรจาระหว่างสหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรปจะมีขึ้นอีกครั้งในวันที่ 7 กันยายน 2563 ณ กรุงลอนดอน และความหวังว่าอาจต้องมีการเจรจาระดับเจ้าหน้าที่ระหว่างรอบก่อนที่จะสรุปผลการเจรจาร่วมกันในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนกันยายน ณ กรุงบรัสเซลส์

ที่มา: Telegraph/ The Express / BBC News

ข้อคิดเห็น สคต.

ถึงแม้ว่าการเจรจาระหว่างสหราชอาณาจักรกับสหภาพยุโรปได้ดำเนินมาถึงช่วงท้ายของการเจรจา แต่มีความเป็นไปได้ว่าทั้งสองฝ่ายอาจไม่สามารถตกลงกันได้ในประเด็นสำคัญหลายประเด็นในรอบการเจรจานี้ อาทิ สิทธิการประมง และสิทธิในการเดินรถขนส่งสินค้า และประเด็นที่สหราชอาณาจักรเห็นว่าส่งผลกระทบต่ออธิปไตยของประเทศ อย่างไรก็ตาม มีการวิเคราะห์ว่ามีความเป็นไปได้ที่การเจรจาจะเข้มข้นขึ้นอย่างมากในเดือนกันยายน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ทั้งสองฝ่ายจำเป็นจะต้องสรุปผลการเจรจาให้ได้ตามแผน และมีการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ระหว่างกัน

ทั้งนี้ การเจรจาในเรื่องสิทธิในการเดินรถขนส่งสินค้าเป็นประเด็นที่น่าจับตามองของผู้ประกอบการไทย ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการวางแผนการขนส่งสินค้า และต้นทุนในการขนส่งสินค้าที่อาจเปลี่ยนแปลงไป ผู้ประกอบการไทยควรติดตามข่าวสารและจับตามองอย่างใกล้ชิดเพื่อเตรียมตัวสำหรับกฎระเบียบที่อาจเปลี่ยนแปลงไปหลังจากวันที่ 1 มกราคม 2564ข่าว สัปดาห์ที่ 15-21 สค 63 – Brexit