พาณิชย์หนุนจัดตั้งสภาธุรกิจไทย – สหราชอาณาจักร

เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2559 ดร. สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้เข้าร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามจัดตั้ง Thai-UK Business Leadership Council โดยมีผู้ลงนามจากฝ่ายสหราช-อาณาจักร คือ Mr. Mark Garnier ผู้แทนการค้าพิเศษของนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร และฝ่ายไทย คือ นายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล ผู้แทนพิเศษของนายกรัฐมนตรีไทยและผู้ช่วยรัฐมนตรี กระทรวงการต่างประเทศ การจัดตั้ง

Thai-UK Business Leadership Council นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการค้าการลงทุนระหว่างทั้งสองประเทศ ให้ข้อเสนอแนะและสนับสนุนรัฐบาลของทั้งสองประเทศในการสร้างบรรยากาศทางธุรกิจที่เอื้อต่อการค้าและการลงทุนระหว่างกัน ร่วมกันกำหนดธุรกิจที่มีศักยภาพและหุ้นส่วนทางธุรกิจระหว่างสองประเทศ รวมถึงผลักดันการสร้างวัฒนธรรมทางธุรกิจที่ส่งเสริมด้านความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม ซึ่งผลสำเร็จของการจัดตั้งสภาธุรกิจฯ ดังกล่าวถือเป็นอีกกลไกหนึ่งที่สำคัญที่จะช่วยผลักดันการค้าและการลงทุนระหว่างไทยกับสหราชอาณาจักรให้เพิ่มพูนมากยิ่งขึ้น
ในการเยือนสหราชอาณาจักรครั้งนี้ รัฐมนตรีช่วยฯ ยังได้เข้าชมงาน Farnborough International Airshow 2016 ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้านวัตกรรมและเทคโนโลยีด้านการบินและอวกาศที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป โดยเห็นถึงความร่วมมือของหน่วยงานหลักที่สำคัญคือ ภาคธุรกิจ องค์กรความรู้ และภาครัฐ ในการขับเคลื่อนและนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีสู่การขยายธุรกิจ เพื่อผลักดันการขยายตัวทางเศรษฐกิจ

รัฐมนตรีช่วยฯ ยังได้พบหารือกับผู้แทนหน่วยงาน Innovate UK ซึ่งเป็นหน่วยงานภาครัฐที่ส่งเสริมการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ โดยทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างผู้คิดค้นนวัตกรรมกับภาคเอกชนและสถาบันการศึกษาในการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ให้มีผลเป็นรูปธรรม รวมทั้งให้คำปรึกษาและให้การสนับสนุนด้านการเงินแก่การวิจัยและพัฒนานวัตกรรม โดยมุ่งเน้น 4 ด้านสำคัญ ได้แก่ การพัฒนาสินค้าด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ วิทยาศาสตร์เพื่อสุขภาพและชีวิต ระบบโครงสร้างสาธารณูปโภค และการเพิ่มผลผลิตภาพแก่ภาคอุตสาหกรรม ทั้งนี้ สหราชอาณาจักรเป็นหนึ่งในประเทศชั้นนำที่ให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยี ซึ่งไทยสามารถเรียนรู้และศึกษาบทบาทและแนวทางการส่งเสริมของภาครัฐในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยนวัตกรรมจากสหราชอาณาจักร

นอกจากนี้ รัฐมนตรีช่วยฯ ยังได้พบกับสมาคมธุรกิจไทยในสหราชอาณาจักร (Association of Thai Businesses in the UK) เพื่อหารือถึงสภาวการณ์การดำเนินธุรกิจของไทยในสหราชอาณาจักร โดยเฉพาะภายหลัง Brexit โดยผลกระทบที่เกิดขึ้นทันที คือ ค่าเงินปอนด์ที่อ่อนค่าลง ซึ่งทำให้สินค้าอุปโภคบริโภคที่นำเข้าจากต่างประเทศรวมทั้งประเทศไทยมีราคาสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ผลกระทบระยะยาวจะขึ้นอยู่กับผลการเจรจาความสัมพันธ์ระหว่างสหราชอาณาจักรและ EU ว่าจะมีทิศทางเป็นอย่างไร สำหรับปัญหาอุปสรรคของการทำธุรกิจของไทยในสหราชอาณาจักรที่ต้องการให้ภาครัฐเข้ามาพิจารณาหาทางแก้ไข คือ ปัญหาการขาดแคลนพ่อครัวแม่ครัวไทย บุคคลากรนวดแผนไทย เนื่องจากความเข้มงวดในการขอวีซ่าเข้ามาทำงาน ซึ่งสมาคมฯ ได้ขอให้ภาครัฐช่วยผลักดันและสนับสนุนโครงการการฝึกอบรมและพัฒนาทักษะฝีมือด้านการทำอาหารไทยและนวดแผนไทย เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว ซึ่งรัฐมนตรีช่วยฯ รับไว้พิจารณาหาแนวทางแก้ไข โดยขอให้สมาคมฯ สรุปประเด็นพร้อมทั้งข้อเสนอแนะที่ชัดเจน ส่งให้ Thai – UK Business Leadership Council และกระทรวงพาณิชย์ต่อไป
ข้อคิดเห็น:
การเยือนสหราชอาณาจักรของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ดร. สุวิทย์ เมษินทรีย์ ในครั้งนี้ นับเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการผลักดันให้เกิดการขยายธุรกิจและการลงทุนระหว่างสองประเทศ โดยแสดงให้เห็นถึงการสนับสนุนของภาครัฐในการจัดตั้ง Thai – UK Business Leadership Council ซึ่งจะเป็นความร่วมมือของภาคเอกชนทั้งสองฝ่าย ขณะที่กระทรวงพาณิชย์จะเป็นหน่วยงานภาครัฐที่จะดำเนินการสานต่อให้ความร่วมมือดังกล่าวร่วมกับภาครัฐของสหราชอาณาจักรให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม สำหรับการพบหารือกับสมาคมธุรกิจไทยในสหราชอาณาจักรนั้น รัฐมนตรีช่วยฯ ได้ให้ข้อมูลด้านนโยบายของกระทรวงพาณิชย์ที่จะเป็นประโยชน์ให้นักธุรกิจไทยทราบ รวมถึงรับฟังปัญหาการดำเนินธุรกิจไทยในสหราชอาณาจักรเพื่อหาแนวทางแก้ไขต่อไป
นอกจากนี้ การเข้าชมงานแสดงสินค้าด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีการบินและอวกาศ การพบหารือกับผู้แทนจากหน่วยงาน Innovate UK ยังเป็นการเรียนรู้ถึงแนวทางในการขับเคลื่อนเพื่อนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีสู่ธุรกิจเพื่อนำไปสู่การขยายตัวทางเศรษฐกิจ ซึ่งสอดคล้องกับโมเดลเศรษฐกิจใหม่ Thailand 4.0 ที่เป็นแนวนโยบายที่ริเริ่มโดยกระทรวงพาณิชย์

 

brexit1 brexit8 brexit7 brexit6 brexit5 brexit4 brexit3 brexit2