ข้อเท็จจริง สหราชอาณาจักรได้ลงนามในความตกลงทางการค้ากับออสเตรเลียเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา ความตกลงทางการค้ากับออสเตรเลียดังกล่าวถือได้ว่าเป็นความตกลงทางการค้าแรกที่เป็นการเจรจาตั้งแต่เริ่มต้นโดยไม่ได้มาจากความตกลงทางการค้าเดิมที่ออสเตรเลียเคยทำไว้กับ EU (negotiated from scratch) ความตกลงทางการค้าดังกล่าวจะส่งผลให้สินค้าที่ส่งออกจากสหราชอาณาจักรไปยังออสเตรเลียทั้งหมดไม่ต้องเสียภาษี โดยอุตสาหกรรมที่จะได้รับประโยชน์จากความตกลงนี้ ได้แก่ รถยนต์ วิสกี้ แฟชั่น ทั้งนี้ ยังเป็นโอกาสของบริษัทด้านดิจิตัลและเทคโนโลยี รวมทั้ง ภาคบริการ เช่น โรงไฟฟ้า (powerhouse service) ในการขยายธุรกิจในออสเตรเลียอีกด้วย นอกจากนี้ รัฐบาลออสเตรเลียยังมีการปรับกฎระเบียบด้านวีซ่าสำหรับชาวสหราชอาณาจักร โดยชาวสหราชอาณาจักรสามารถท่องเที่ยวและทำงานในออสเตรเลียได้เป็นระยะเวลา 3 ปี ทั้งนี้ รัฐบาลออสเตรเลียยังอนุญาตให้บางสาขาอาชีพ ได้แก่ สถาปนิก นักวิทยาศาสตร์ นักวิจัย ทนายความ และ นักบัญชี สามารถขอวีซ่าในการทำงานในออสเตรเลียได้โดยไม่ตกอยู่ภายใต้กฎระเบียบด้านสาขาอาชีพ (skilled occupation)

มูลค่าการค้าและบริการระหว่างสหราชอาณาจักรและออสเตรเลียในปี 2562 – 2563 มีมูลค่า 20,100 ล้านปอนด์ โดยรัฐบาลสหราชอาณาจักรคาดการณ์ว่า ความตกลงทางการค้าดังกล่าวจะช่วยเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่าง สหราชอาณาจักรและออสเตรเลียประมาณ 10,400 ล้านปอนด์ ซึ่งจะช่วยเพิ่ม GDP ของสหราชอาณาจักร ได้ประมาณร้อยละ 0.08 นอกจากนี้ ยังจะช่วยให้สหราชอาณาจักรสามารถเข้าถึงตลาดประเทศในกลุ่ม CPTPP (Comprehensive and Progressive Trans-pacific Partnership) ได้อีกด้วย

ในส่วนของออสเตรเลียนั้น ความตกลงทางการค้าดังกล่าวเป็นความตกลงทางการค้าที่ใหญ่เป็นอันดับสองที่ออสเตรเลียเคยทำมา โดยความตกลงทางการค้านี้จะส่งผลให้สินค้าที่ส่งออกออสเตรเลียไปยังสหราชอาณาจักร  ร้อยละ 99 ไม่ต้องเสียภาษี อีกทั้ง คาดว่าจะเป็นการขยายตลาดสินค้าน้ำตาล และเนื้อวัว ของออสเตรเลียมายัง สหราชอาณาจักร อีกด้วย อย่างไรก็ดี เกษตรกรชาวสหราชอาณาจักรมีความกังวลว่าความตกลงการค้าดังกล่าวจะ

ส่งผลเสียต่ออุตสาหกรรมเกษตรของสหราชอาณาจักร ทั้งนี้ องค์กร Greenpeace ยังเห็นว่า ผู้บริโภคชาวสหราชอาณาจักรอาจจะต้องรับประทานเนื้อวัวที่มาจากฟาร์มที่มีการตัดไม้ทำลายป่าเพื่อเลี้ยงวัว ในขณะที่ ผู้บริโภคควรที่จะรับประทานเนื้อสัตว์ที่มาจากฟาร์มภายในประเทศ

ที่มา:  BBC News, Gov.UK และ The Guardian

ข้อมูลเพิ่มเติม/ความเห็น สคต. รัฐบาลสหราชอาณาจักรได้เร่งทำความตกลงการค้าเสรีกับประเทศคู่ค้าต่างๆ ซึ่งความตกลงทางการค้าระหว่างสหราชอาณาจักรและออสเตรเลียดังกล่าว นอกจากจะช่วยขยายมูลค่าการค้าระหว่างสหราชอาณาจักรและออสเตรเลียแล้ว ยังจะช่วยให้สหราชอาณาจักรสามารถเข้าถึงตลาดประเทศในกลุ่ม CPTPP (Comprehensive and Progressive Trans-pacific Partnership) อีกด้วย

ในส่วนของไทยนั้น สหราชอาณาจักรให้ความสำคัญจากการที่ไทยเป็นหนึ่งในประเทศคู่ค้ารายสำคัญในอาเซียนของสหราชอาณาจักร โดยขณะนี้ไทยอยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมในการประชุมคณะกรรมการร่วมด้านเศรษฐกิจและการค้าระหว่างไทยและสหราชอาณาจักร (Joint Economic and Trade Committee: JETCO) ซึ่งจะนำไปสู่ความร่วมมือเพื่อการขยายธุรกิจการค้าระหว่างกันอย่างมีทิศทางที่ชัดเจน ในส่วนของผู้ประกอบการไทยนั้น ควรเตรียมความพร้อมและหาแนวทางในการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันสำหรับสินค้าที่จะส่งออกมายังสหราชอาณาจักรต่อไป

                                      สรุปโดย สคต. ลอนดอน