ปี 2022 อาจเป็นปีที่การค้าปลีกในสหราชอาณาจักรจะต้องปรับตัวเป็นอย่างมาก เพื่อให้การเลือกซื้อสินค้าสำหรับผู้บริโภคดำเนินไปอย่างสะดวกมายิ่งขึ้น โดยตลอด 2 ปีที่ผ่านมาธุรกิจค้าปลีกได้ใช้เทคโนโลยีเข้ามามีส่วนในการสร้างประสบการณ์ในการเลือกซื้อสินค้า online ให้หลากหลายมากขึ้น และปรับตัวตามพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ทั้งนี้ การคลี่คลายของการแพร่ระบาด COVID-19 หลังจากแพร่ระบาดมาเป็นเวลากว่า 2 ปี ส่งผลให้อุตสาหกรรมค้าปลีกต้องปรับตัวมาเป็นการขาย online มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถึงแม้ผู้บริโภคจะกลับมาเลือกซื้อสินค้าผ่าน online platform น้อยลง แต่จากการสำรวจของ Mintel พบว่าในปี 2021 4 ใน 10 ของผู้บริโภคยังคงเลือกซื้อสินค้าออนไลน์ โดยมีสัดส่วนการจจับจ่ายใช้สอยมากถึง 29%

อย่างไรก็ตาม ภาพรวมเศรษฐกิจปี 2022 อาจยังมีปัจจัยเรื่อง COVID-19 เป็นปัจจัยหลักเนื่องจากการฉีดวัคซีนที่ยังไม่ทั่วถึงในหลายประเทศ ปัญหาเรื่องการจัดการ supply โดยเฉพาะ semi-conductor  รวมถึงปัญหาเงินเฟ้อ หนี้ครัวเรือนที่เพิ่มสูงขึ้นซึ่งล้วนแต่ส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าของผู้บริโภคทั้งสิ้น ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ของ Deloitte UK ได้รวบรวมเทรนด์ค้าปลีกของสหราชอาณาจักรในปี 2022 ดังนี้

1. คนรุ่น Gen Z เริ่มใช้เงินมากขึ้น คนที่เกิดในช่วงปี 1995 -2010 ที่เริ่มทำงานจะกลายเป็นผู้บริโภคที่เริ่มเข้าสู่ตลาดโดยไม่ต้องพึงพาอาศัยการตัดสินใจร่วมกับผู้ปกครอง และเป็นกลุ่มคนที่มีความต้องการชัดเจน ซึ่งเจ้าของผลิตภัณฑ์จะต้องมีความเข้าใจต่อความต้องการของคนในวัยนี้เพิ่มขึ้น

2. ร้านค้าปลีกรายใหญ่เริ่มเข้าสู่ Digital ที่ผ่านมาร้านค้าปลีกออนไลน์ที่เป็น startup และไม่มีหน้าร้านได้รับประโยชน์จากการทำตลาดออนไลน์ แต่ในระยะหลังได้เริ่มมีการเปิดตัว online store ของร้านค้าปลีกรายใหญ่ที่มีหน้าร้านมากขึ้น โดยมีการพัฒนาให้ผู้บริโภคได้มีประสบการณ์ในการเลือกซื้อของออนไลน์มากขึ้น หรือการเลือกใช้สินค้าผ่าน metaverse

3. การจ่ายเงินแบบไร้สาย ปัจจุบันรูปแบบการจ่ายเงินสินค้าในร้านค้าออนไลน์ได้ปรับตัวให้เป็นการจ่ายเงินแบบ contactless หรือสามารถเลือกซื้อสินค้าได้โดยไม่ต้องผ่านช่องชำระเงิน ซึ่งเป็นการอำนวยความสะดวกให้ผู้บริโภคและลดการสัมผัส โดยรูปแบบของร้านค้าที่สะดวก รวดเร็ว และการส่งสินค้าที่รวดเร็วจะกลายเป็นกรแสหลักในการทำธุรกิจค้าปลีก

4. การปรับกลยุทธ์ให้ทันผู้บริโภค ตลาดมีความท้าทายมากขึ้นและอ่อนไหวต่อความรู้สึกของผู้บริโภค ผู้ค้าปลีกและผู้ผลิตต้องมีความยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยนรูปแบบสินค้าและบริการให้เข้ากับความต้องการของผู้บริโภค โดยสามารถปรับเปลี่ยนทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์ได้

5. ห่วงโซ่แห่งความดี สินค้าที่มีวัฏจักรในการผลิต (Circularity) และตรวจสอบได้ (traceability) กำลังเป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก โดยจะเห็นได้จากธุรกิจเสื้อผ้ามือสองที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ผู้บริโภคมีแนวโน้มที่จะเน้นเรื่องความยั่งยืนที่สามารถตรวจสอบได้ โดยประเด็นที่สนใจในปัจจุบันจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการลดอุณหภูมิเนื่องจากสภาวะโลกร้อน

6.  ความร่วมมือของผู้ค้าและผู้ผลิต การใช้ความร่วมมือระหว่างผู้ค้าและผู้ผลิตจะช่วยให้การสื่อสารการตลาดชัดเจนมากขึ้น ดังนั้น การร่วมมือกันในการตาดและการผลิตสินค้าที่เป็นทิศทางเดียวกันโดยเฉพาะประเด็นที่สังคมให้ความสนใจในปัจจุบันจะมีโอกาสประสบความสำเร็จมากขึ้น เช่น ประเด็นเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาวะภูมิอากาศ เป็นต้น

ที่มา: Deloitte UK

ข้อมูลเพิ่มเติม/ความเห็น สคต. การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ได้ส่งผลต่อทั้งพฤติกรรมของผู้บริโภค และภาคธุรกิจในสหราชอาณาจักร โดยภาพรวมการค้าในช่องทาง Online จะยังคงมีอัตราการเติบโต และมีช่องทางที่หลากหลายขึ้น แต่การพัฒนาผลิตภัณฑ์สำหรับการวางจำหน่าย นอกจากจะต้องพิจารณาการใช้เทคโนโลยีการผลิต หรือวัตถุดิบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ทั้งนี้ สคต. เห็นว่าประเด็นเรื่องการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคในประเด็นเรื่องการตรวจสอบย้อนกลับ และการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จะยังเป็นปัจจัยสำคัญในการนำสินค้าใหม่เข้าสู่ตลาดสหราชอาณาจักร เนื่องจากผู้บริโภคที่เป็นคนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญกับประเด็นเหล่านี้