จากผลสำรวจของสภาหอการค้าแห่งอังกฤษพบว่า ท่ามกลางสภาวการณ์ความไม่แน่นอนจากทั้งภายในและภายนอก ส่งผลให้การเติบโตทางเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักรยังคงอยู่ในภาวะของการชะลอตัวโดยมีสาเหตุที่สำคัญ ได้แก่ ยอดขายและการสั่งซื้อที่ลดลง ประกอบกับความเชื่อมั่นและการลงทุนที่อยู่ในระดับต่ำ นอกจากนี้ ตัวเลขของผลผลิตด้านอุตสาหกรรมในเดือนกุมภาพันธ์ได้ลดลงร้อยละ 0.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า  ส่งผลให้เศรษฐกิจของสหราชอาณาจักรในไตรมาสแรกของปี 2559 ชะลอตัวลง

Dr. Adam Marshall รักษาการเลขาธิการสภาหอการค้าแห่งอังกฤษได้กล่าวถึงภาพรวมเศรษฐกิจของ สหราชอาณาจักรว่าจะยังคงชะลอตัวต่อไป อันเป็นผลมาจากการที่ยอดขายและการสั่งซื้อได้ลดลง รวมทั้งความเชื่อมั่นและการลงทุนที่อยู่ในระดับต่ำ โดยผลการสำรวจจากบริษัทมากกว่า 8,500 แห่ง ได้สะท้อนถึงความเชื่อมั่นต่อผลกำไรในระดับที่ต่ำ นอกจากนี้ ยังพบว่ายอดขายและการสั่งซื้อในภาคบริการภายในประเทศได้ลดลงในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ในขณะที่ยอดขายของภาคอุตสาหกรรมได้ลดลงเช่นกัน

นาย John Longworth อดีตผู้อำนวยการสภาหอการค้าฯ ซึ่งได้ลาออกเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ภายหลังจากการกล่าวแสดงความคิดเห็นในที่สาธารณะเกี่ยวกับประเด็นการคงอยู่หรือถอนตัวจากสหภาพยุโรปว่า สหราชอาณาจักรจะมีอนาคตทางเศรษฐกิจที่สดใสหากไม่ได้อยู่ในสหภาพยุโรป อย่างไรก็ดี นาย Marshall ได้กล่าวว่า           จะไม่มีการรณรงค์สำหรับฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเกี่ยวกับการลงประชามติว่าด้วยการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปของสหราชอาณาจักรซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 23 มิถุนายน 2559 เนื่องจากจะเป็นชนวนที่สร้างความแตกแยกระหว่างสมาชิก           ในองค์กร

ที่มา : BBC News วันที่ 11 เมษายน 2559  

 

ผลกระทบต่อการส่งออกไทย/ข้อเสนอแนะ

ท่ามกลางสภาวการณ์ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจทั้งจากปัจจัยภายในและภายนอก โดยเฉพาะการจัดการลงประชามติว่าด้วยการเป็นสมาชิกภาพของสหภาพยุโรป ส่งผลให้เศรษฐกิจของสหราชอาณาจักรชะลอตัวลง อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรป เศรษฐกิจของสหราชอาณาจักรยังคงมีอัตราการเติบโตที่ร้อยละ 0.5 (Q4/2015) ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มประเทศดังกล่าวที่อัตราร้อยละ 0.4 อันมีปัจจัยที่สำคัญมาจากอัตราการว่างงานและอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำ

สหราชอาณาจักรเป็นคู่ค้าอันดับที่ 19 ของไทยและเป็นอันดับที่ 2 จากสหภาพยุโรปรองจากเยอรมนี ในระยะ 3 ปีที่ผ่านมา (2556-2558) การค้ารวมมีมูลค่าเฉลี่ย 6,752.53 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยไทยเป็นฝ่ายได้เปรียบดุลการค้ามาโดยตลอด โดยในปี 2559 (ม.ค.-ก.พ.) การค้ารวมมีมูลค่า 854.11 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นสัดส่วน ร้อยละ 1.33 ของการค้าทั้งหมดของไทย เป็นการส่งออกมูลค่า 551.89(-11.48%)  ล้านเหรียญสหรัฐ และเป็นการนำเข้า มูลค่า  302.28 (-33.45%) ล้านเหรียญสหรัฐ โดยไทยได้เปรียบดุลการค้า 249.54 ล้านเหรียญสหรัฐ

สินค้าส่งออกที่สำคัญของไทยไปสหราชอาณาจักร  ได้แก่ ไก่แปรรูป รถยนต์อุปกรณ์และส่วนประกอบ อัญมณีและเครื่องประดับ แผงวงจรไฟฟ้า รถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์พลาสติก เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ เครื่องนุ่มห่ม และอาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป   เป็นต้น

สินค้านำเข้าที่สำคัญของไทยจากสหราชอาณาจักร ได้แก่  เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ น้ำมันดิบ ส่วนประกอบและอุปกรณ์ยานยนต์แผงวงจรไฟฟ้า เหล็ก เหล็กกล้า และผลิตภัณฑ์ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านสินแร่โลหะอื่น ๆ เศษโลหะและผลิตภัณฑ์ เป็นต้น


 

Disclaimer:

ข้อมูลต่างๆ ทีปรากฏเป็นข้อมูลทีได้จากแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย และการเผยแพร่ข้อมูลเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลแก่ผู้สนใจเท่านั้น เนื้อหาและสาระไม่ได้สะท้อนความเห็นนโยบายและการดำเนินการใดๆ ของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ กรุงลอนดอน แต่อย่างใด ลิขสิทธ์ใดๆ เป็นของเจ้าของบทความ เนื้อหาของผู้พิมพ์ผู้โฆษณาที่แท้จริงนั้นๆ